พาเด็กๆ ไป "เมียง มอง มุม เมือง ครั้งที่ 3"

วันนี้ได้มีโอกาสพาเด็กๆ ที่เรียนศิลปะที่สมาร์ท อาร์ต มาร่วมกิจกรรม "เมียง มอง มุม เมือง ครั้งที่ 3" ซึ่งจัดโดย วัวลายสตอรี่, ฮอมสุข สตูดิโอ และ Weave Artisan Society ซึ่งเป็นกิจกรรม เดินชมชุมชนย่านนันทาราม, หมื่นสาร, วัวลาย เพื่อศึกษาวิถีชุมชน และสเก๊ตซ์ภาพเรื่องราวของเครื่องเงิน, เครื่องเขิน ความสัมพันธ์ของวัดกับชุมชน และร่วมพูดคุยกันถึงอนาคตของชุมชนวัวลาย

เส้นทางที่เราจะเดินกัน จะอยู่ในโซนด้านทิศใต้ของเขตคูเมืองเชียงใหม่

จุดแรก เป็นจุดนัดพบอยู่ที่ "วัดนันทาราม" และเราก็จะเริ่มเดินกันจากจุดนี้

ก่อนออกเดินทางก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อน โดยทางคณะผู้จัดได้ชี้แจงกิจกรรมของวันนี้ทั้งหมด ว่าจะต้องทำอะไร และปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง

เริ่มเดินทางออกจาก "วัดนันทาราม" เพื่อเข้าสู่ "ถนนสุริยวงศ์" เลี้ยวซ้ายเพื่อมุ่งหน้าไปยัง "ลานประตูเชียงใหม่"

ระหว่างทาง ได้แวะชมความงาม และเรียนรู้เรื่องราวของ "วัดธาตุคำ"

จาก "วัดธาตุคำ" พวกเราก็เดินมุ่งหน้าไปยังประตูเชียงใหม่ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดแรกที่พวกเราจะได้เริ่มสเก๊ตซ์ภาพกันตามถนัดใคร ถนัดมัน

บริเวณประตูเชียงใหม่

เมื่อได้มุมที่ต้องการแล้ว ก็ลงมือสเก๊ตซ์กันเลย

"โอมิ" บอกว่าเป็นครั้งแรกเลยครับที่ผมได้วาดภาพนอกสถานที่แบบนี้

และก็เป็นครั้งแรกของ "ต้นน้ำ" เหมือนกัน กับการสเก๊ตซ์ภาพนอกสถานที่แบบนี้

พี่ๆ สถาปัตย์ฯ ม.อ.สงขลา วิทยาเขตตรัง ก็มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วย

รุ่นใหญ่จาก "ชมรมสล่าสีน้ำเชียงใหม่"

"พี่ยุ้ย" นักวาดภาพสีน้ำ จาก กทม.

รุ่นใหญ่อีกคน "พี่เก่ง" ศิลปินจากกลุ่ม Sketcher Chiang Mai

จากซ้าย ภูมิ, เฮ้ง, ปอนด์ นักศึกษาแผนกออกแบบ อาชีวะ เชียงใหม่

คนนี้รุ่นใหญ่มาก "ครูไก่" ศิลปินอิสระชื่อดังของเมืองไทย ที่ให้เกียรติมาร่วมเดิน และสเก๊ตซ์ภาพในครั้งนี้

กลุ่มน้องๆ สถาปนิก ในเมืองเชียงใหม่ ที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

สเก๊ตซ์แบบเร็วๆ เจดีย์บริเวณประตูเชียงใหม่

โชว์ผลงานร่วมกับลูกศิษย์

นัดรวม สรุป ผลงาน

ภาพที่สเก๊ตซ์วันนี้ ณ ประตูเชียงใหม่

จากนั้นก็เดินจากประตูเชียงใหม่ เข้าสู่เส้นถนนวัวลาย เพื่อไปดูการดุนโลหะที่ "บ้านสล่า ทรงฤทธิ์" ในชุมชนวัดหมื่นสาร

จากนั้น ทางคณะผู้จัดห็พาพวกเราเดินเข้าตรอกซอกซอยต่างๆ ในย่านชุมชนวัดหมื่น ก่อนจะแวะไปดื่มน้ำมะตูม และกินเมี่ยงคำ ที่ "บ้านเมี่ยงคำ ครูคำอ้อน" และระหว่างทาง เราก็จะเห็นบ้านเก่าสวยๆ ลักษณะอย่างนี้หลายหลังเลยทีเดียว

จุดต่อมาก็เป็น "วัดหมื่นสาร"

สเก๊ตซ์เจดีย์ที่วัดหมื่นสาร

วาดเล่นๆ ให้เด็กดู ระหว่างการบรรยายเรื่องราวความเป็นมาของวัดหมื่นสาร

ภายในพิพิธภัณฑ์ "ไทย-ญี่ปุ่น" ของวัดหมื่นสาร ที่มีความเป็นมา เกี่ยวข้องกันมายาวนาน ซึ่งภายในพิพธภัณฑ์ก็มีสิ่งของต่างๆ ในอดีตให้ได้ศึกษามากมาย

ต่อจากนั้นเราก็เดินทางออกจาก "วัดหมื่นสาร" ไปยัง "วัดศรีสุพรรณ" ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน

และที่ "วัดศรีสุพรรณ"นี้ เราก็ได้รับความเมตตาจาก "พี่สวรรค์ แคว้นไธสง" ได้มีบรรยายให้ความรู้กับชาวคณะ ซึ่งทำให้ได้รับความรู้ที่เกี่ยวข้องกับวัดนี้มากมาย โดยเฉพาะพระอุโบสถเงิน

ชมการสาธิตการดุนโลหะจาก วิทยาลัยในวัง สาขาวัดศรีสุพรรณ

จากนั้นก็เดินออกมาจากวัดศรีสุพรรณ เพื่อไปยังบ้าน "พ่อครูดิเรก สิทธิการ" และ "บ้านเมฆบังวัน"

พ่อครูดิเรก แม่ครูสุพรรณ สิทธิการ

บ้านเมฆบังวัน

พี่เอิร์น กับ น้องดิง ตามมาสมทบช่วงบ่าย

จากนั้นพวกเราก็เดินเข้าสู่ถนนวัวลาย เพื่อมุ่งหน้าไปสู่ประตูหายยา และชุมชน 5 ธันวา

ลำคูไหวในชุมชน 5 ธันวา

จากจุดนี้เราก็เดินลัดเลาะไปตามเส้นทางเดินของชุมชนเพื่อไปชมกำแพงดินที่ยังพอหลงเหลืออยู่

ทางคณะผู้จัดก็ได้บรรยายเกี่ยวกับเรื่องแนวกำแพงดินนี้ให้ฟังถึงความเป็นมา

และบริเวณนี้มีความเชื่อว่าสมัยโบราณเป็นที่สำหรับฝึกช้าง ปัจจุบันได้มีศาลที่มีชื่อว่า "ศาลเจ้าพ่อช้างศึก"

ต่อจากนั้นพวกเราก็เดินกันต่อไปยังบริเวณสะพานสิริราษฎร์มรรคา และ "น้องเพลง" บอกว่า เดินแค่นี้จิ๊บๆ สบายมากค่ะ

"ลำคูไหว"

จากจุดนี้ พวกเราก็เดินกลับไปวัดนันทาราม โดยใช้ ถนนนันทาราม 6

และฟังบรรยายสรุปอีกครั้งจากคณะผู้จัด

"น้องเพลง" กับสถาปนิกสาวรุ่นใหม่

พระพิฆเนศภายในวัดนันทาราม

"เอิร์น" บอกว่าวันนี้มันส์มาก

และจุดสุดท้ายของกิจกรรมในวันนี้หลังจากเดินออกจากวัดนันทารามมาแล้ว เราก็มุ่งหน้ามายังโรงน้ำแข็งเก่า ที่ทำการรีโนเวทใหม่ โดยใช้ชื่อว่า Weave Artisan Society ซึ่งตั้งอยู่บนถนนวัวลาย ซอย 3

ซึ่งที่นี่เราก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของสถานที่ ทั้งเรื่องเครื่องดื่ม และอื่นๆ จากนั้นก็ทำการระดมความคิดเห็นเพื่อช่วยกันคิดว่า ต่อไปในอนาคตชุมชนวัวลายจะเป็นอย่างไร