บทความ

เราเรียนศิลปะกันไปทำไม???

รูปภาพ
"เราเรียนศิลปะกันไปทำไม????" "เรียนไปจะทำมาหากินอะไรได้????" นี่เป็นคำถามยอดฮิตที่มักจะได้ยินบ่อยๆ จากผู้ปกครองหลายคนที่ยังสงสัยถึงการเรียนศิลปะ ว่าเรียนไปทำไม??? และเรียนไปเพื่ออะไร??? "เรียนศิลปะกันไปทำไม???" สำหรับคำถามนี้ผมคิดว่าผู้ปกครองกำลังนำการเรียนศิลปะไปเปรียบเทียบ กับการเรียนเสริมวิชาสามัญอื่นๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะวิชาสามัญอื่นๆ นั้นเป็นวิชาหลักที่ใช้ในการสอบแข่งขันเพื่อวัดระดับในการศึกษาต่อ ดังนั้นวิชาสามัญก็เรียนกันไป ในเมื่อเราเรียนวิชาสามัญต่างๆ แล้ว ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราต้องเรียนศิลปะกันด้วย???  "การเรียนศิลปะจะช่วยทำให้ชีวิตเรามีความเป็นมนุษย์สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น มีสุนทรีย์ภาพในการมองสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยความงาม ศิลปะทำให้จิตใจเราสงบ ศิลปะทำให้เราอ่อนโยน ศิลปะทำให้เราช่างสังเกต ศิลปะทำให้เรามีสมาธิ ศิลปะทำให้เราใจเย็นไม่เป็นคนหัวร้อน และคิดอะไรที่เป็นแง่มุมเดียว ศิลปะทำให้เราได้พัฒนาสมองในกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะช่วยให้เด็กได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับเด็ก และทุกคนคือ ศิลปะช่วยบำบัด

สีเทียน การเริ่มต้นทางด้านศิลปะของเด็กๆ

รูปภาพ
เด็กๆ เริ่มต้นหากต้องเรียนศิลปะ สีเทียนจะเป็นอุปกรณ์ส่วนหนึ่งในการส่งเสริมทักษะทางด้านศิลปะนี้ โดยสามารถเริ่มใช้ได้ทั้งแต่เด็กๆ เริ่มจับเป็น ขีดๆ เขียนๆ ได้ ดังนั้น "สีเทียน" จึงมีความสำคัญในการเริ่มต้นของการเรียนรู้ทางด้านศิลปะของเด็กๆ เกือบทุกๆ คน  สีเทียน  แต่เดิมนั้นมีลักษณะเป็นสีเคลือบ เกิดจากการที่สีแท้ของวัตถุธาตุผสมกับขี้ผึ้งซึ่งนำมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน ใส่ไว้ในฐานแม่พิมพ์รูปแท่งขนาดที่เตรียมไว้ หลังจากที่เราปล่อยให้ขี้ผึ้งผสมสีแห้งแล้วก็จะเกิดการแข็งตัวเกิดเป็น แท่งสีขีผึ้ง ต่อมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นเปลี่ยนจากการผสมระหว่างสีและขี้ผึ้ง เป็น สีกับเทียนแทน ซึ่งมีราคาถูกและสามารถลดต้นทุนได้ดีกว่า โดยคุณภาพพอๆ กัน และเรียกติดกันมาเป็น  "สีเทียน"  แบบทุกวันนี้   คุณสมบัติของ สีเทียน ดีตรงที่ไม่ละลายน้ำ และ น้ำมัน จึงไม่เลอะมือเวลาใช้สักเท่าไหร่ เหมาะกับเด็กๆ หรือคนที่เพิ่งหัดวาดภาพระบายสี เพราะสีเทียนสมัยใหม่ๆนั้น ส่วนใหญ่ออกแบบมาให้จับได้สะดวก และง่ายต่อการใช้งาน ที่สำคัญสามารถระบายสีทับซ้อนกันได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองทำให้สีเทียนนั้นเ

ขอขอบคุณ "ครูผู้ช่วย" Smart Art 2008-2019

รูปภาพ
"สมาร์ท อาร์ต" คงมาไม่ถึงวันนี้ หากขาดบุคคลเหล่านี้ที่ได้มีส่วนช่วยกันผลักดัน และช่วยกันสอนศิลปะให้กับเด็กๆ ตั้งแต่ยุคแรก ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน ในนามของผู้ก่อตั้ง และดำเนินการ "สมาร์ท อาร์ต" ต้องขอขอบคุณ "ครูผู้ช่วย" ทุกๆ คนตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบัน ที่ช่วยกันทำให้ "สมาร์ท อาร์ต" มีมาจนถึงทุกวันนี้ ... และขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการประกอบอาชีพ ชีวิตส่วนตัว ครอบครัว ขอให้มีความสุขสมหวังในทุกๆ ประการ ขอบคุณมากๆ นะครับ ... ถ้าว่าง มีโอกาส มีเวลาก็กลับมาเยี่ยมเยียนกันบ้างนะครับ ยุคแรกช่วงปี 2008 "ครูพี่เอี๊ยม" ปรียากาญจน์ เกษทอง ปัจจุบันนี้ทำธุรกิจส่วนตัว ยุคต่อมา "ครูพี่ปาย" ปัจจุบันทำธุรกิจทางด้านสุขภาพ และอาหารเสริม ยุคกลาง "ครูพี่ใหม่" ดาราทัศน์ ปัจจุบันทำงานเป็นข้าราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และวาดภาพการ์ตูนบนอินเตอร์ เน็ต "ครูพี่แคน" ชัญญานุช เป็นลูกศิษย์ในยุคแรกตั้งแต่สมัยเปิดสอนศิลปะ   (ครูจิตอาสา) ศูนย์ศิลปะเวียงบัว (ปี 2540-2543)  "ครูพี่แคน"  มาช่วยส

Color of Fun : EP.1 - สีโปสเตอร์ (Poster Color)

รูปภาพ
Color of Fun : EP.1 ตอนนี้จะนำเสนอเรื่องราวของสีโปสเตอร์ให้ได้รู้จักกัน เพื่อจะได้เป็นพื้นฐานในการที่จะนำไปใช้ในการระบายสีโปสเตอร์ขั้นตอนต่อๆ ไป สีโปสเตอร์ เป็นสีชนิดสีฝุ่น (Tempera) ที่ผสมกาวน้ำบรรจุเสร็จเป็นขวด การใช้งานเหมือน กับสีน้ำ คือใช้น้ำเป็นตัวผสมให้เจือจาง สีโปสเตอร์เป็นที่สีทึบแสง มีเนื้อสีข้น สามารถระบายให้มี เนื้อเรียบได้ และผสมสีขาวให้มีน้ำหนักอ่อนลงได้เหมือนกับสีน้ำมัน หรือสีอะครีลิค  สามารถระบายสีทับกันได้ มักใช้ในการวาดภาพ ภาพประกอบเรื่อง ในงานออกแบบต่างๆ ได้สะดวก ในขวดสีโปสเตอร์มีส่วนผสมของกลีเซอรีน จะทำให้แห้งเร็ว หรืออาจจะกล่าวได้ว่า สีโปสเตอร์เป็นสีน้ำชนิดหนึ่งเนื่องจากมีน้ำเป็นส่วนผสม นิยมบรรจุขวด มีเนื้อสีข้นค่อนข้างหยาบ และมีคุณสมบัติทึบแสง เพราะเติมแป้งหรือเนื้อสีขาวลงไป เรียกว่า “สีแป้ง” คุณสมบัติของสีโปสเตอร์ การเขียนภาพด้วยสีโปสเตอร์สามารถวาดภาพให้มีน้ำหนักแสงเงาได้เช่นเดียวกับการวาดภาพด้วยสีน้ำ สีโปสเตอร์เป็นสีที่มีลักษณะขุ่นทึบ เนื้อสีมีลักษณะคล้ายแป้ง ซึ่งแตกต่างจากลักษณะของสีน้ำที่โปร่งใส สีโปสเตอร์เหมือนกันกับสีน้ำตรงที่เ

พระนฤตยะ คณปติ (Nritya Gannapati)

รูปภาพ
พระนฤตยะ คณปติ (Nritya Gannapati) ปางนาฏศิลป์ เทพเจ้าแห่งลีลาการร่ายรำ และศิลปะการแสดง "โอม ศรี นฤตยะ คณปติ ยะนะมะฮา" วรรณะสีเหลืองทอง มี 4 กร เป็นนักเต้น ร่ายรำ ระบำฟ้อน เป็นนักแสดงที่สร้างความบันเทิง และความสุขให้กับชาวโลก ประทับยืนเข่าขวาเหยียบบนดอกบัว เหมาะสำหรับตั้งบูชาในวิทยาลัยนาฏศิลป์ โรงเรียนสอนเต้นรำ บัลเล่ต์ โยคะดัดตน โรงเรียนสอนการแสดง โรงละคร โรงถ่ายทำภาพยนตร์ และสถานบันเทิงต่างๆ ตามความเหมาะสม หรือผู้ที่อยู่ในสายงานด้านนาฏศิลป์ ด้านศิลปะการแสดงต่างๆ ควรบูชา ภาพวาดโดย : พงศ์ประนาฏต เพ็ชรัตนกูล เทคนิค : สีน้ำบนกระดาษ ขนาด : 26 X 36 ซม.

พระเจ้าเก้าตื้อ : พระพุทธรูปสำคัญของล้านนา

รูปภาพ
พระเจ้าเก้าตื้อ หรือ  “พระเจ้าสิริทรงธรรม จักรพรรดิราช”   เป็นพระพุทธรูปสำคัญของล้านนา กล่าวกันว่าเป็นพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ที่สุด และงดงามที่สุดในศิลปะล้านนา ประดิษฐานในอุโบสถ วัดบุปผาราม หรือวัดสวนดอก อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พระเจ้าเก้าตื้อ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ประทับขัดสมาธิราบหน้าตักกว้าง 2.90 เมตร สูง 3.89 เมตร ศิลปะล้านนาอิทธิพลสุโขทัย (พ.ศ. 2047) หรือที่เรียกกันว่า “ศิลปะเชียงแสนสิงห์สอง” ประทับบนฐานหน้ากระดานเกลี้ยง พระพักตร์รูปไข่ ขมวดพระเกศาเล็ก พระรัศมีเป็นเปลว พระขนงโก่ง พระโอษฐ์อมยิ้ม ริมฝีพระโอษฐ์เป็นคลื่นเหมือนศิลปะสุโขทัยพระอังสาใหญ่ บั้นพระองค์เล็ก หน้าตักกว้าง ลักษณะสังฆะฏิเป็นแผ่นใหญ่ และยาวจรดพระนาภี อาจบ่งบอกถึงรูปแบบศิลปะอยุธยาที่ผสมผสานในพระพุทธรูปด้วย ประวัติพระเจ้าเก้าตื้อ ปรากฏในพงศาวดารโยนกว่า พระเมืองแก้ว หรือ พระเจ้าศิริธรรมจักรพรรดิราช (พ.ศ. 2038 – 2068) โปรดให้สร้างพระพุทธรูปสำริดองค์ใหญ่ เพื่อจะนำไปประดิษฐานเป็นพระประธานในพระวิหารหลวง วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร โดยเริ่มทำการหล่อในวันพฤหัสบดี เดือน 8 ขึ้น 11 ค่ำ ปีชวดฉอศก จุลศักราช

พระธันวันตริ เทพเจ้าแห่งอายุรเวท แพทย์แห่งสวรรค์

รูปภาพ
พระธันวันตริ เทพเจ้าแห่งอายุรเวท การแพทย์แห่งสวรรค์ และเทพทั้งปวง ความเชื่อของฮินดู ว่าเป็นหนึ่งในอวตารของ พระวิษณุ พระนามของพระองค์ปรากฏในปุราณะว่าเป็นเทพเจ้าแห่งอายุรเวท พระธันวันตริ เกิดขึ้นมาจากเกษียรสมุทร ระหว่างการกวนเกษียรสมุทรพร้อมกับน้ำอมฤต (น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้กลายเป็นอมตะ) โดยทั่วไปชาวฮินดูนิยมกราบไหว้ และบูชาเพื่อให้คุ้มครองสุขภาพ และหายจากอาการเจ็บป่วยและโรคต่างๆ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลธันเตรัส (Dhanteras) หรือ ธันวันตริ ตรโยทศิ (Dhanwantari Trayodashi) ซึ่งรัฐบาลอินเดียประกาศให้เฉลิมฉลองเป็น "วันอายุรเวทแห่งชาติ" พระธันวันตริ มี สี่กร มือถือหม้อน้ำอมฤต, จักร, สังข์ และ ชลุกา (ปลิง) โดยมีความเชื่อว่า น้ำอมฤต กับ ชลุกา (ปลิง) ใช้ในการรักษาโรค การสวดภาวนา กล่าวว่า  "โอม ศรี ธัน วัน ตริ นะ มะ หะ" กล่าว 3 ครั้ง ขอพระบารมีองค์ธันวันตริ ช่วยปัดเป่า โรคภัยไข้เจ็บ ที่เป็นอยู่ ให้หายเป็นปกติ ด้วยเทอญ ภาพโดย : ครูช้าง พงศ์ประนาฏต เรื่อง : เรียบเรียงมาจากอินเตอร์เน็ต