เราเรียนศิลปะกันไปทำไม???

"เราเรียนศิลปะกันไปทำไม????"
"เรียนไปจะทำมาหากินอะไรได้????"

นี่เป็นคำถามยอดฮิตที่มักจะได้ยินบ่อยๆ จากผู้ปกครองหลายคนที่ยังสงสัยถึงการเรียนศิลปะ ว่าเรียนไปทำไม??? และเรียนไปเพื่ออะไร???


"เรียนศิลปะกันไปทำไม???"

สำหรับคำถามนี้ผมคิดว่าผู้ปกครองกำลังนำการเรียนศิลปะไปเปรียบเทียบ กับการเรียนเสริมวิชาสามัญอื่นๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเพราะวิชาสามัญอื่นๆ นั้นเป็นวิชาหลักที่ใช้ในการสอบแข่งขันเพื่อวัดระดับในการศึกษาต่อ ดังนั้นวิชาสามัญก็เรียนกันไป

ในเมื่อเราเรียนวิชาสามัญต่างๆ แล้ว ถ้าอย่างนั้น ทำไมเราต้องเรียนศิลปะกันด้วย??? 

"การเรียนศิลปะจะช่วยทำให้ชีวิตเรามีความเป็นมนุษย์สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น มีสุนทรีย์ภาพในการมองสิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยความงาม ศิลปะทำให้จิตใจเราสงบ ศิลปะทำให้เราอ่อนโยน ศิลปะทำให้เราช่างสังเกต ศิลปะทำให้เรามีสมาธิ ศิลปะทำให้เราใจเย็นไม่เป็นคนหัวร้อน และคิดอะไรที่เป็นแง่มุมเดียว ศิลปะทำให้เราได้พัฒนาสมองในกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะช่วยให้เด็กได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก และสิ่งที่สำคัญมากๆ สำหรับเด็ก และทุกคนคือ ศิลปะช่วยบำบัดความเครียดในจิตใจ จากการเรียน จากการทำงาน จากสังคมหัวร้อนรอบๆ ตัวเราได้ และการเรียนศิลปะก็ช่วยในการพัฒนาทักษะ เพื่อใช้ในการเรียนศิลปะชั้นสูงในระดับมหาวิทยาลัยต่างๆ ต่อไป" นี่เป็นเพียงคำตอบบางส่วนเท่านั้นที่พอจะหามาได้ว่า "ทำไมเราต้องเรียนศิลปะ???"

"ศิลปะดูเหมือนว่ามันไม่สำคัญ แต่มันจำเป็นมากๆ ในการนำมาใช้ในการดำรงชีวิต"


"เรียนศิลปะจะทำมาหากินอะไร???"

ผู้ปกครองหลายท่านสงสัยว่า ถ้าให้ลูกเรียนศิลปะโตแล้ว ลูกจะมีอนาคตมั้ย??? จะไปทำมาหากินอะไร??? จะไปวาดรูปขายเหรอ??? 

ไม่แปลกครับเพราะภาพในหัวของพวกเราส่วนใหญ่ เมื่อได้ยินคำว่า "เรียนศิลปะ" มันคือ การวาดรูประบายสี แต่ในความเป็นจริงแล้ว ศิลปะเป็นอะไรที่มากกว่านั้น ศิลปะไม่ได้เป็นแค่การวาดรูประบายสี แต่ศิลปะยังรวมไปถึง การปั้น การหล่อ การพิมพ์ การออกแบบ และอื่นๆ อีกมากมาย ที่แตกแขนงแยกย่อยกันออกไป เพราะปัจจุบันนี้โลกแห่งการแข่งขันนี้ ล้วนต้องอาศัยคนศิลปะเข้ามาทำงานในการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ สินค้า การตลาด และการบริการต่างๆ หรือแม้แต่กระทั่งวงการแพทย์ที่เรารู้จักกันในนามว่า "ศิลปะบำบัด"


โดยส่วนตัวผมชอบยกตัวอย่างเมื่อมีคนถามว่าเรียนศิลปะแล้วจะไปทำมาหากินอะไร ผมก็มักจะบอกว่าเริ่มที่ตัวคนถามเลยนะว่าสิ่งที่อยู่บนร่างกายของคุณส่วนไหนที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานศิลปะ เพราะสิ่งของทุกชิ้นที่คุณใช้ ที่คุณถือ ที่คุณสวมมาจากคนทำงานศิลปะทั้งนั้น สิ่งของทุกชิ้นต้องผ่านกระบวนการออกแบบดีไซด์ก่อนที่จะนำมันเข้าสู่ไลน์การผลิต เสื้อก็ต้องออกแบบลวดลายสีสัน รถยนต์ก็ต้องออกแบบดีไซด์ปั้นดินเหนียวทำโมเดลก่อนการผลิต


บ้าน ตึกสูง คอนโดที่เราอาศัยกันอยู่ ก็ต้องผ่านกระบวนการออกแบบมาก่อน ที่จะสร้างให้เราอยู่อาศัย เสื้อผ้า ของใช้ในชีวิตประจำวัน โทรศัพท์มือถือ  เกมส์ แอปปิเคชั่นต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ และบนคอมพิวเตอร์ ล้วนต้องมีไอคอน มีซิมโบลิค มีภาพกราฟิคต่างๆ ที่สวยงาม ก็ต้องอาศัยคนศิลปะออกแบบมาทั้งนั้น ถุงบรรจุภัณฑ์ แพ็คเกจจิ้ง ต่างๆ ที่ใช้ใส่สิ่งของ ก็ต้องผ่านคิดการออกแบบเพื่อให้เกิดความสวยงาม มีรสนิยม และดึงดูดผู้บริโภค แว่นตาก็ต้องผ่านการออกแบบ รูปทรง สัดส่วน เพื่อความสวยงามรับกับใบหน้า แม้แต่ฟร้อนท์กราฟฟิกที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ก็ต้องมีคนออกแบบ

จริงๆ แล้วยังมีอีกมากมายครับ ที่ผมเอามาเขียนไม่หมด แต่เพียงแค่นี้ก็คิดว่าน่าจะตอบคำถาม สำหรับผู้ปกครองที่กำลังสงสัยว่า "เรียนศิลปะแล้วจะไปทำอะไรได้" ได้บ้างไม่มากก็น้อยแล้วนะครับ เพียงแต่การเรียนศิลปะมันต้องมีพื้นฐานไปก่อน เช่น วาดเส้น ทฤษฎีสี องค์ประกอบศิลป์ พื้นฐาน และจิตวิทยาการออกแบบ สีน้ำ สีไม้ สีโปสเตอร์ ฯลฯ ต่อจากนั้นแล้วคนที่เรียนศิลปะ ก็ต้องเอาไปขยายต่อว่า จะไปในด้านใด และทำงานแบบไหนที่ ถนัด เหมาะสมกับตัวเอง

เรียนศิลปะแล้ว มีพื้นฐานที่ดี และไม่เลือกงาน รับรองว่าจะทำงานได้เกือบทุกอย่าง หากสามารถนำเอาศิลปะมาประยุกต์ใช้ในงานที่ทำนั้นๆ รับรองว่า เราจะเก่ง และเจ๋งไม่เหมือนใครเลยทีเดียว


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มารู้จักภาพทัศนียภาพ - Perspective

การวาดภาพทิวทัศน์ (Landscape)

การวาดภาพทิวทัศน์แบบง่ายๆ ที่ใครๆ ก็สามารถวาดได้