พลังแห่งสี Colour Therapy

พลังแห่งสี  Colour Therapy

ในวงการแพทย์ยอมรับว่าความสวยงามของสีมีผลต่อจิตใจของมนุษย์ทำให้เกิดความรู้สึกต่างๆ ได้   สีสันรอบๆตัวเรานั้นมีอิทธิพลอย่างมากต่อชีวิตของเรา ในธรรมชาติมีสีมากมายหลายสี และมีผลต่อความรู้สึกของเราทั้งนั้น  สีนั้นมีความถี่ของการสั่นสะเทือนบริสุทธิ์   การใช้สีในการบำบัดจึงเป็นที่ยอมรับในการช่วยรักษาระดับความสมดุลของร่างกายที่เจ็บป่วย ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ   ช่วยในการเจริญเติบโตและพัฒนาการด้านต่างๆของเด็กได้ แล้วพลังของสี ยังส่งผลต่ออารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด และการตัดสินใจของเราอีกด้วย

หลักการทำงานของสี

ผลของสีที่มีต่อชีวิตคนเราลึกกว่าสิ่งที่ตาเรามองเห็น ในร่างกายเรา ต่อมไพเนียลทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเรา เช่น การกิน การนอน เมื่อตาเรามองสีต่างๆ ผ่านจอประสาทตา ซึ่งสีแต่ละสีก็มีความยาวคลื่น (Wave length) และความถี่ (Frequency) ที่แตกต่างกัน  ต่อมไพเนียลก็จะมีปฎิกิริยาในการตอบสนองต่อสีแต่ละสีแตกต่างกันออกไป   ปฎิกิริยาของ ต่อมไพเนียล จะส่งผลให้ความรู้สึก จิตใจ ฮอร์โมน และอารมณ์ในร่างกายของเราในขณะนั้น มีความรู้สึกแตกต่างกันออกไป

พลังของสี
มีหลักฐานตั้งแต่สมัยโบราณยุคอียิปต์ อินเดีย และจีน ที่มีการใช้สีในการรักษาโรค คนอียิปต์มีวิธีใช้สีรักษาผู้ป่วยอาการฟกช้ำดำเขียว ก็จะใช้ยาสีม่วงคล้ำรักษา หรือ อาการบาดเจ็บเลือดออกก็ใช้ยาที่มีสีแดงรักษา ในปัจจุบัน สีถูกใช้เยียวยารักษาในด้านของการฉายแสงสีสเปกตรัม และนักจิตวิทยานำมาใช้บำบัดอารมณ์และความรู้สึก   ศาสตร์ของการบำบัดด้วยสีมีเทคนิคต่างกันไป เช่น การกระจายแสงสีบนร่างกายเพื่อบำบัดโรคต่างๆ และในสีแต่ละสีก็มีคุณสมบัติในการรักษาโรคที่ต่างกันออกไป ซึ่งต้องอาศัยความชำนาญเชี่ยวชาญของแพทย์ แต่เราก็สามารถใช้พลังสีบำบัดได้ในชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของเราเอง

สีร้อน- สีเย็น

โทนของสี มีผลอย่างมากต่อการใช้ประโยชน์จากพลังของสี ในศาสตร์ของการบำบัดด้วยสี แบ่งสีออกเป็นสีโทนร้อน และสีโทนเย็น

สีร้อน กระตุ้นให้เรารู้สึกมีชีวิตชีวา

สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีม่วง เป็นกลุ่มสีที่ทำให้เกิดความรู้สึกมีพลัง เร่าร้อน กระตือรือร้นและ กระฉับกระเฉง สีโทนร้อน จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร ทำให้เกิดความรู้สึกหิวและกระตุ้นให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ

สีเหลือง เยียวยาอาการท้อแท้

สีเหลืองเป็นสีของความสดใสร่าเริง ความสนุกสนาน ความฉลาดรอบรู้ มีอารมณ์ขัน  เป็นสีแห่งบุคลิกภาพและจิตใจที่เปิดกว้าง  เป็นตัวแทนของความใฝ่รู้และ สติปัญญา พลังของสีเหลือง ช่วยให้ระบบการทำงานของน้ำดีและลำไส้เป็นไปตามปกติ ช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร ทำให้ระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น ทั้งยังสามารถใช้เยียวยาอาการท้อแท้หดหู่และหมดกำลังใจ

สีส้ม  บรรเทาอาการซึมเศร้า

สีส้มเป็นสีแห่งความสร้างสรรค์ อบอุ่น สดใส มีสติปัญญา ความเป็นมิตร ความร่าเริง ความสนุกสนาน ความทะเยอทะยานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง  พลังของสีส้ม ช่วยคลายอาการหอบหืด และโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ช่วยรักษาความผิดปกติของม้าม ตับอ่อน ลำไส้ ทั้งยังช่วยในการดูดซึมอาหารของกระเพาะและลำไส้ได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณรู้สึกว่าหมดพลังในชีวิต สีส้มเป็นสีที่คุณควรมองหาและนำมาประยุกต์ใช้ให้มากที่สุด พลังของสีส้มมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการซึมเศร้า ช่วยเรียกพลังความกระตือรือร้นในชีวิตให้กลับคืนมา

 สีแดง เพิ่มพลังแห่งชีวิต

สีแดง เป็นสีที่กระตุ้นระบบประสาทของเราได้รุนแรงที่สุด ให้ความรู้สึกเร้าใจ ตื่นเต้น ท้าทาย ตื่นตัว มุ่งมั่น กระตือรือร้น เร่าร้อนและมีพลัง พลังของสีแดงกระตุ้นพลังชีวิตให้มีความเข้มแข็ง กระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา   สีแดงมีอิทธิพลต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง เพิ่มอุณหภูมิในร่างกาย เพิ่มพลังในระบบการไหลเวียนของเลือด และรักษาอาการหวัด เมื่อคุณรู้สึกท้อแท้หมดกำลังใจ สีแดงเป็นสีที่คุณควรนำมาใช้เพื่อเพิ่มพลังแห่งความมั่นใจ กล้าแสดงออก สร้างความรู้สึกเชื่อมั่นในตัวเองให้กับคุณได้เป็นอย่างดี 

สีม่วง เป็นสีแห่งผู้รู้ 

มีน้ำใจ มีไหวพริบ รู้สึกผ่อนคลาย กระตุ้นให้เกิดแรงบันดาลใจ จิตใจสงบ พลังของสีม่วงช่วยปรับสมดุลในร่างกายของเราให้กลับมาเป็นปกติ ใช้บำบัดโรคไต กระเพาะปัสสาวะอักเสบ โรคผิวหนังบางชนิด อีกทั้งยังช่วยในการบำบัดโรคไขข้อได้อีกด้วย จากการวิจัยพบว่าพลังของสีม่วง ช่วยให้สมองของเราสงบ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในคราวเดียวกัน พลังของสีม่วงช่วยได้ เมื่อคุณต้องเผชิญกับปัญหาที่ยังไม่สามารถหาทางออกได้ สีม่วงจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจกับเรื่องต่างๆได้ง่ายขึ้น

สีเย็น ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย
สีเขียว สีน้ำเงิน สีฟ้า เป็นกลุ่มสีที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สงบ  ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ คลายเครียด สีโทนเย็นจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่มีชีวิตประจำวันเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก 

สีเขียว คลายความเครียด
สีเขียวเป็นสีธรรมชาติที่เด่นที่สุดบนโลก ให้ความรู้สึกร่มรื่น สบายตา ผ่อนคลาย ปลอดภัย ทำให้เกิดความหวัง ความสมดุล เปิดเผย ตรงไปตรงมา พลังของสีเขียวสามารถทำให้ประสาทตาผ่อนคลาย ความดันโลหิตลดลงได้ ผ่อนคลายระบบประสาท ป้องกันการจับตัวของก้อนเลือด ต่อต้านเชื้อโรค รักษาอาการของคนเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เยื่อบุอักเสบซึ่งมีผลพวงมาจากโรคเครียด ดังนั้น เมื่อรู้สึกเครียด อย่าลืมมองหาสีเขียว พลังของสีเขียวช่วยคุณได้

สีน้ำเงิน บรรเทาความดันสูง
สีน้ำเงินเป็นสีที่ให้ความรู้สึก สุขุม เยือกเย็น หนักแน่น ซื่อสัตย์ ละเอียดรอบคอบ แต่ไวต่อความรู้สึก สีน้ำเงินมีประโยชน์กับคนที่เป็นโรคนอนไม่หลับ เครียด และความดันโลหิตสูง พลังของสีน้ำเงิน ยังทำให้ระบบหายใจของเราเกิดความสมดุลและเเข็งแรงขึ้น ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและสร้างสรรค์ทางศิลปะ

สีฟ้า บรรเทาโรคปอด
สีฟ้า เป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบเยือกเย็น เป็นอิสระ ปลอดโปร่ง ผ่อนคลาย เพลิดเพลิน สบายใจ ปลอดภัย และระงับความกระวนกระวายในใจได้ดีเพราะทำให้การเต้นของหัวใจช้าลง พลังของสีฟ้ามีคุณสมบัติในการรักษาอาการของโรคปอด ลดอัตราการเผาผลาญพลังงาน รักษาอาการเจ็บคอช่วยลดความดันโลหิต ทำให้เกิดความสงบ สมาธิ ส่งผลที่ดีต่อการเรียนรู้

สีในบ้าน...มีผลต่ออารมณ์

เราจะเห็นว่าสีแต่ละสีทำให้เรามีความรู้สึกต่างกันและมีผลต่ออารมณ์ที่แสดงออกด้วย มาดูกันว่าสีที่เราใช้ในชีวิตประจำวันมีผลอย่างไรกับเรา

สีฟ้า สีเขียว สีชมพู 

จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายเพลิดเพลิน ควรใช้ในห้องอาหารเพราะมีผลดีต่อการย่อยและดูดซึมอาหาร หรือในห้องนอน จะทำให้เราผ่อนคลายนอนหลับได้ง่าย

สีเขียว สีคราม 
ทำให้อารมณ์สงบลง ลดอาการขุ่นมัวขัดเคืองใจ ลดอาการงอแงของเด็กได้ ควรเลือกใช้ในห้องนั่งเล่น หรือมุมสงบที่ต้องการผ่อนคลาย

สีส้ม สีแดง
ทำให้รู้สึกตื่นเต้น กระปรี้กระเปร่า กระฉับกระเฉงขึ้น อันนี้เหมาะมากสำหรับห้องทำกิจกรรมของครอบครัว หรือห้องครัว ห้องอาหาร จะช่วยกระตุ้นการเจริญอาหาร
       
การใช้สีในบ้านไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทาสีทั้งห้องหรือทั้งบ้านเป็นสีใดสีหนึ่ง เรายังสามารถเลือกอุปกรณ์ของตกแต่งบ้านใช้หลาย ๆ สีปรับให้เข้ากันก็ได้

ขอบคุณข้อมูลดีๆจากนิตยสารกุลสตรี + Aorair